ถือเป็นข่าวดังในรอบวัน เพราะทางสโมสร ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมดังจากเกาะอังกฤษ ได้ประกาศปลดฟ้าผ่า ผู้จัดการทีมอย่าง
“โชเซ่ มูรินโญ่” และแต่งตั้ง “ไรอัน เมสัน” โค้ชเยาวชนมาคุมทีมแทนชั่วคราว ช่วงหลังผลงานของทีม “ไก่เดือยทอง” ไม่ค่อยดีมากนัก เพราะ 5 นัดหลังสุดทำผลงานออกมาไม่ดี นับตั้งแต่บุกไปผ่าย ดินาโม ซาเกร็บ 3 – 0 ทำให้ต้องตกรอบในบอลถ้วย “ยูฟ่า โยโรปาลีก”
วันนี้ ekposnews จะพาไป เจาะลึกเหตุผลที่ “โชเซ่ มูรินโญ” โดนปลดฟ้าผ่า จะมีเหตุผลอะไรบ้างไปชมกันได้เลย
เจาะลึกเหตุผลที่ “โชเซ่ มูรินโญ” โดนปลดฟ้าผ่า
1. แผนรถบัสใช้ไม่ได้ผล
เป็นอีกคำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นในหัวของแฟนบอลตลอดว่า การที่ทีมตั้งรับมากเกินไปทำให้สเปอร์ยังไม่ประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่าง
เช่น เกมในวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลูกทีมของ น้า มู ทำประตูออกนำไปก่อน 3 ประตู แต่กับโดนแวสต์แฮม
ของกุนซืออย่าง “เดวิด มอยส์” ตามตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม ทำให้พวกเขาต้องทำสองแต้มหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้แฟนบอลหลายคนถึงกับหัวร้อนอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าเวลาเพียงแค่ 10 นาที จะทำให้ทีมรัก พลาดอย่างที่ไม่หน้าเกิดขึ้นได้

2. ไม่ชอบนักเตะ
หลายคนคงรู้ดีว่า “โชเซ่ มูรินโญ่” เป็นกุนซือที่ข้องข้างมี แพชชั่นสูง หรือเรียกได้ว่าถ้านักเตะคนไหนไม่เข้ากับแผนการทำทีมของน้าแก ก็เรียกได้ว่าแทบจะหมดอนาคตกับทีมเลย ยกตัวอย่างเช่น “ปอล ป็อกบา” ดาวยิงนักเตะชาวฝรั่งเศล ของทีม “แมนเชตเตอร์ ยูไนเต็ด”
ได้ออกมาแฉว่า “มูรินโญ่” ชอบงัดกับนักเตะ หากไม่ถูกใจใคร ก็จะเป็นพวกนอกสายตาทันที แต่แตกต่างจาก “โซลชา” ผู้จัดการทีมในปัจจุบัน ทีมีวิธีการใกล้ชิดกับนักเตะมากกว่า

3. หมดลุ้น Top 4
จะเห็นได้ว่าผลงาน ของทีมไก่เดือยทอง ไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะ 5 เกมหลังสุด ชนะได้แค่เพียงครั้งเดียว ที่สามารถบุกไปเอาชนะ แอสตัน วิลลา 2 ประตูต่อ 0 แต่อย่างไรก็ตามทางด้าน บอร์ดบริหารอาจไม่ดีใจเท่าไหร่นักเนือกจากทีมที่อยู่หัวตรางไม่สดุดเลย หรือนี้อาจจะ
เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดกุนซือ อย่าง “น้า มู” ต้องโดนปลด อาจจะพูดได้เต็มปากว่านี้เหตุผลที่ทำให้ “น้า มู” ไม่ได้ไปต่อ เพราะการ
ที่หลุดจาก TOP 4 ทำให้ไม่ได้ไปเล่นถ้วย ยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมป์เปียนลีก แถมยังพลาดท่าพลิกแพ้ทีม จาก ยูเครน ในบอลถ้วย ยูโรปาลีก ทำให้อดได้ตั๋วลัดที่จะพาทีมนำไปสู่ถ้วย ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ทำให้สโมสรเสียรายได้ไปอย่าง มหาศาล ทั้งที่ปีนี้สเปอร์ลุงทุนในการ
เสริพทัพเป็นจำนวนเงิน มหาศาล แถมยังได้สุดยอดกองหน้าอย่าง “แกเร็ท เบล” อดีตดาวยิงของทีม ราชันชุดขาว “เรอัล มาดริด” แต่ก็ช่วยทีมได้ไม่มากนัก

4. เข้าชิงบอลถ้วยลีกคัพ
นี้อาจจะเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่ “น้า มู” ได้ผากผลงานไว้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำไว้ คือการเข้าไปชิง ลีกคัพกับ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” แต่อย่างไรก็ตาม “น้า มู” ก็ไม่สามารถยืนสั่งทีมที่ข้างสนามได้อีกต่อไป เป็นที่หน้าเสียดายที่ยอด กุนซืออย่าง “โชเซ่ มูรินโญ่”
ที่จะไม่ได้คุมทีมรักข้างสนาม เพราะเหลือเพียงอีกแค่ไม่กี่วันก็จะได้พาทีมเข้าชิงแล้วแท้ ๆ แต่กลับโดนปลดออกจากต่ำแหน่งกุนซือก่อน โดยที่ไก่เดือยทอง ท็อตเนมฮอตเปอร์ จะลงทำการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศกับ ยอดทีม อย่าง แมนเชตเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 25 เมษายน 264 ต้องมารอลุ้นกันว่ากุนซือใหม่ที่เข้ามาแทนที่ ของ “โชเซ มูรินโญ่” จะทำผลงานออกมาได้ดีแค่ไหน

5. หมดยุคของ “น้า มู”
เป็นคำถามที่ ถกเถียงกันมาตลอดว่า หมดยุคของ “น้า มู” แล้วหรือยัง เพราะหลังจากที่ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมของยอดทีมจากเกาะอังกฤษอย่าง ปีศาจแดง “แมนเชตเตอร์ ยูไนเต็ด” ก่อนที่จะมารับงานต่อจาก “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน” ที่โดนปลดไปก่อนหน้านี้ แฟนบอลหลายคนรู้สึกยินดี และดีใจที่จะได้ยอดกุนซือมาคุมทีมรักของตน ผลงานในช่วงแรก ๆ ที่ “น้า มู” ได้มาเป็นผู้จัดการทีมก็เหมือนจะ
ดีขึ้น แต่พอมาถึงปัจจุบันหลายคนก็ตั้งคำถามว่า หมดยุค “น้า มู” แล้วหรือยัง เพระเต็ง 3 ของถ้วย ยูโรป้า คัพ ดันมา แพ้ให้กับทีมรองบ่อนอย่าง “ดินาโม ซาเกร็บ” ทั้งที่นัดแรก สเปอร์ เอาชนะมาได้ก่อน 2 ประตู ต่อ 0 กำความเหนือชัยมาเยอะพอสมควร แต่กลับพลิกแพ้ช็อกโลก ทำให้ตกรอบ บอลถ้วยยุโรป ไปอย่างหน้าเสียดาย

อย่างไรก็ตาม โชเซ่ มูรินโญ ถือว่ายังเป็นยอดกุนซืออยู่ และอีกหลาย ๆ ทีมยังต้องการตัวเพื่อไปคุมทีม แต่ด้วยเรื่องของสภาพทีม หรืออาจจะเป็นเพราะการคุมทีมยังไม่ถูกใจเหล่าบรรดาผู้บริหาร และเหล่าแฟนบอลที่ทำให้ ยอดกุนซือ ไม่ได้ไปต่อหรืออาจะเป็น เพราะ 5 เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนี้ที่ทำให้ “น้า มู” ล้มเหลวในการคุมทีม “ท็อตเนม ฮอทเปอร์” แต่อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อในฝีมือในการทำทีมของ “น้า มู” แต่ว่าสถานีต่อไปของยอดกุนซือคนนี้จะไปนั่งแท่นกุนซื่อทีมไหน ต้องรอติดตามดูและติดตามเชียร์กันต่อไป